ปุ๋ยอินทรีย์ (Organic Fertilizer): มูลนกกระทา

มูลนกกระทา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

comment

เศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัต ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก และภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิต ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

ปุ๋ยอินทรีย์ดีกว่าปุ๋ยเคมีจริงหรือ

มีองค์ประกอบหลายปัจจัย ที่ทำให้คนยอมรับหรือไม่ยอมรับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และอยากให้พิจารณาตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ยึดหลักความเป็นจริง ต้องดูทั้งข้อดีและข้อจำกัดของปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ข้อดีของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้แก่ ช่วยปรับปรุงสมบัติทางกายภาพของดินคือทำให้ดินร่วนซุย การถ่ายเทอากาศดี เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ ช่วยปรับปรุงสมบัติทางเคมีของดิน เพิ่มความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุบวกของดิน ช่วยละลายแร่ธาตุในดิน ให้พืชใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยควบคุมปฏิกิริยาของดิน (pH) ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินไป ช่วยปรับปรุงสมบัติทางด้านชีวภาพของดิน โดยการช่วยเพิ่มชนิด ปริมาณและส่งเสริมกิจกรรมของจุลินทรีย์ และสัตว์ที่มีขนาดเล็กในดิน เพราะอินทรียวัตถุเป็นแหล่งอาหารและพลังงานที่สำคัญของจุลินทรีย์และสัตว์ที่มีขนาดเล็กในดิน ช่วยปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารพืชในดิน โดยช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และจุลธาตุให้แก่ดิน นอกจากนั้นปุ๋ยอินทรีย์บางชนิดยังมีจุลินทรีย์ที่สามารถตรึงก๊าซไนโตรเจนจากอากาศได้ด้วย หรือช่วยให้ธาตุอาหารในดินถูกปลดปล่อยออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น ยังช่วยทำให้ต้นพืชแข็งแรง และมีความต้านทานต่อโรคและหรือแมลงศัตรูพืชมากขึ้นด้วย ส่วนข้อจำกัดของปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์มีปริมาณธาตุอาหารพืชน้อยเมื่อเทียบกับปุ๋ยเคมี ต้องใช้ในปริมาณมากทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และแรงงานในการใส่มากกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถปรับแต่งเป็นสูตรปุ๋ยให้เหมาะสมกับดินและพืชได้เหมือนปุ๋ยเคมี และสัดส่วนของธาตุอาหารพืชต่างๆ ในปุ๋ยอินทรีย์ยังมีความปรวนแปรมากด้วย ทั้งจากชนิดและอายุ (ความอ่อน-แก่)ทั้งตัวสัตว์และอาหารที่สัตว์กิน รวมทั้งรูปแบบในการเก็บรวบรวม หรือการเก็บรักษา หลังการรวบรวมหรือรอเวลานำไปใช้ ปุ๋ยอินทรีย์สลายตัวและปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาให้พืชใช้ได้ช้าซึ่งการปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาอาจไม่สอดคล้องกับเวลาที่พืชต้องการ และการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปในดินล่วงหน้านานเกินไป อาจทำให้เกิดการสูญเสียธาตุอาหารพืชได้ในปริมาณมาก ปุ๋ยอินทรีย์บางชนิดมีธาตุโลหะหนักหรือสารพิษปนเปื้อน เช่น ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากขยะที่ได้จากเมืองใหญ่ หรือวัสดุเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีธาตุโลหะ ทำให้อาจเกิดอันตรายกับคนหรือสัตว์ที่บริโภคพืชที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ดังกล่าวได้ นอกจากข้อจำกัดที่เกิดจากสมบัติเฉพาะตัวของปุ๋ยอินทรีย์แล้ว สาเหตุสำคัญที่เกษตรกรบางรายยังไม่ยอมรับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ก็เพราะนิสัยส่วนตัวของเกษตรกรที่คุ้นเคยกับการใช้ปุ๋ยเคมีที่คิดว่าสะดวก บางรายไม่สามารถจัดหาหรือผลิตได้เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดความตั้งใจจริงทั้ง ๆ ที่รู้ว่า จะต้องทำอะไร ทำอย่างไร สามารถทำเองได้ และมีความพร้อมที่จะทำ แต่ก็ยังไม่ทำ การแปรรูปหรือการปรุงแต่งวัสดุในรูปผลพลอยได้จากแหล่งหรือจากการประกอบการต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปหรือสภาพที่สะดวกต่อการใช้มากขึ้น เช่น การนำมูลสัตว์ที่มีอยู่แล้ว หรือที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมาหมักและผสมกับวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ที่มีปริมาณธาตุอาหารพืชสูง จากนั้นจึงนำมาปั้นเม็ดหรืออัดเม็ดซึ่งจะทำให้สะดวกในการใส่ลงดิน น่าใช้เพราะเวลาใส่ไม่ฟุ้งกระจาย ขนส่งง่ายและเก็บรักษาได้นานขึ้น สนใจข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับ “ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของเกษตรกรที่ทำนา ในจังหวัดชัยนาท” ที่ http://r01.ldd.go.th/aya/information/thesis/thesis.pdf

ปุ๋ยอินทรีย์ (Organic Fertilizer)

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

นาข้าวอินทรีย์

มูลนกกระทา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น